กลุ่มคนจีนรุ่นใหม่ให้ความรู้สึกกับ คอมมิวนิสต์ ว่า สิ่งที่สวยหรูและหอมหวานในทุกยุคทุกสมัย เพราะเป้าหมายที่ต้องการทำให้มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกันในสังคมอย่างสมบูรณ์แบบ สังคม คอมมิวนิสต์ในอุดมคติเป็นสังคมที่ไร้ความเหลื่อมล้ำในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางเศรษฐกิจ การเมือง ทางกฎหมาย และศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ โดยมีรัฐเป็นผู้รับผิดชอบดูแลให้สวัสดิการทุกอย่างให้ราษฎรทุกคนตั้งแต่เกิดจนตาย ไม่ว่าการรักษาพยาบาล การศึกษา การเข้าทำงาน เงินชดเชยในยามป่วยไข้ ชราภาพ หรือเสียชีวิต จริงหรือ วันนี้เราจะมารู้จักกับ คอมมิวนิสต์ กัน
คอมมิวนิสต์ คือ
คือ ระบอบการปกครองภายใต้ข้อกำหนดของความเป็นเจ้าของร่วมกัน มุ่งจุดประสงค์ให้สังคมไร้ชนชั้น ประชาชนทุกคนมีฐานะทางสังคมเท่าเทียมกัน
ประวัติศาสตร์จีนอาจจะพอทราบว่า หลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบราชวงศ์ มาเป็นสาธารณรัฐ และมาเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่งเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ในปี ค.ศ. 1949 แต่ระหว่างปี ค.ศ. 1911 ถึง 1949 คือระหว่างการเปลี่ยนจากสาธารณรัฐ มาเป็น คอมมิวนิสต์อยู่เกือบ 40 ปีนั้น มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เรื่องยาวมากมายเรียกว่าเป็นมหากาพย์เลยทีเดียว
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ไม่นานนักประเทศจีนจัดมหกรรมเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ คือ “พรรค คอมมิวนิสต์จีนมีอายุครบหนึ่งร้อยปีเต็ม” พรรคคอมมิวนิสต์จีน (ก้งฉานตั่ง) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่อยู่ในอำนาจยาวนานที่สุดทั้งแต่ปี ค.ศ. 1949 หลังจากที่ชนะสงครามกลางเมือง
เพราะอะไรคนจีนยังยึดมั่น
คอมมิวนิสต์นั้นเป็นสิ่งที่สวยหรูและหอมหวานสำหรับคนรุ่นใหม่ ในทุกยุคทุกสมัย เพราะมีเป้าหมายคือการทำให้มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกันในสังคมอย่างสมบูรณ์แบบซึ่งเป็นที่หลายต้องการ ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางเศรษฐกิจ การเมือง ทางกฎหมาย และศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ โดยมีรัฐเป็นผู้รับผิดชอบดูแลให้สวัสดิการทุกอย่างให้ราษฎรทุกคนตั้งแต่เกิดจนตาย ไม่ว่าการรักษาพยาบาล การศึกษา การเข้าทำงาน เงินชดเชยในยามป่วยไข้ ชราภาพ หรือเสียชีวิต
จีนจะไม่ถูกรังแกอีกต่อไป
การมีส่วนร่วมของประชาชนในระดับฐานรากของสังคมนั้นเป็นหัวใจของพรรคคอมมิวนิสต์จีนตั้งแต่ต้น เริ่มตั้งแต่การเดินทางไกลพูดคุยกับประชาชน ชาวไร่ชาวนาในชนบทในยุคที่ประธานเหมากำลังก่อร่างสร้างตัว รวบรวมผู้คนเพื่อต่อสู้กับประธานาธิบดีเจียงไคเช็ก จนได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชนทั่วประเทศ ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์เอาชนะพรรคกั๋วหมินของเจียงไคเช็กได้
เรื่อยมาจนถึงการรับฟังเสียงจากผู้ประกอบการรายย่อย ที่ต้องยอมขาดทุนเพราะถูกบริษัทอาลีบาบาบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผูกขาดธุรกิจออนไลน์ของแจ๊ก หม่า เอารัดเอาเปรียบ จนทำให้พรรคต้องเข้าไปแทรกแซงทางธุรกิจจนปัญหานี้หมดไปจากสังคมจีน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่ยังแก้ปัญหานี้กันไม่ตกในยุโรปและอเมริกา
การสร้างผู้นำท้องถิ่นเป็นความสำเร็จอีกประการหนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งในแต่ละหมู่บ้านจะเลือกผู้แทนของตนขึ้นมา ผู้แทนระดับหมู่บ้านสิบคนก็จะเลือกตัวแทนของพวกตนมาอีกหนึ่งคน ผู้แทนคนนี้จะทำหน้าที่เป็นผู้แทนของตำบล ผู้แทนตำบลสิบคนเลือกกันเองได้ผู้นำอำเภอ และผู้นำอำเภอสิบคนก็จะเลือกผู้นำจังหวัด เรื่อยมาจนถึงผู้นำมณฑล
ผู้นำในท้องถิ่นนั้นยังมีคนรุ่นหนุ่มสาวซึ่งทำหน้าที่เป็นจิตอาสาช่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุขชาวบ้านแต่ละหลังคาเรือนในหมู่บ้านของตน ผลลัพธ์ที่ได้คือประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาความทุกข์ร้อนของประชาชนในท้องถิ่น แม้อยู่ห่างไกลเพียงใดก็ตาม และประชาชนมีความรู้สึกว่า “ตนคือเจ้าของประเทศอย่างแท้จริง”
ในทางปฏิบัติ พรรคคอมมิวนิสต์จีนจึงไม่ใช่เป็นพรรคที่ปกครองด้วยระบอบเผด็จการ ซึ่งปกครองด้วยจอมเผด็จการผู้ซึ่งไม่ฟังเสียงประชาชน และคำนึงถึงประโยชน์ส่วนตนของตนเอง หรือพวกพ้องของตนเป็นใหญ่
รัฐบาลและสื่อมวลชนตะวันตกกลับสร้างภาพให้เห็นว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนนั้นปกครองด้วยระบอบเผด็จการ รวมศูนย์อำนาจไปที่คนๆ เดียว และสั่งการทุกอย่างโดยใช้อำนาจเผด็จการโดยไม่ใยดีต่อสารทุกข์สุกดิบของประชาชนเลย การบริหารของพรรคคอมมิวนิสต์จีนนี้จึงเป็นการบริหารในระบอบประชาธิปไตยแบบประชาชนมีส่วนร่วม ซึ่งแตกต่างจากระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยในตะวันตกซึ่งเป็นแบบมีตัวแทนของประชาชน
คอมมิวนิสต์ ระบอบการปกครองภายใต้ข้อกำหนดของความเป็นเจ้าของร่วมกัน มุ่งจุดประสงค์ให้สังคมไร้ชนชั้น ประชาชนทุกคนมีฐานะทางสังคมเท่าเทียมกัน ความเท่าเทียมที่หลายคนต้องการ และจึงเป็นลัทธิการเมืองที่ประเทศมหาอำนาจอย่างจีน ยังยึดมั่นและนำพาประเทศให้เป็นเอกรัฐได้อย่างทุกวันนี้ทุกคนด้รักและคิดว่านี่คือประเทศของตัวเองนั่นเอง
ขอบคุณรูปจาก
www.nationtv.tv
อ่านต่อที่ เหตุการณ์สำคัญ