เชียงใหม่ นับเป็นจังหวัดที่มีความรุ่งเรื่องที่สุดของภาคเหนือของประเทศไทย โดยเป็นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ในหน้าประวัติศาสตร์เชียงใหม่ นั้น เชียงใหม่มีความเป็นมาอย่างไรกัน ถึงได้มีความเจริญรุ่งเรืองกว่าจังหวัดอื่น แบบนี้ เรามาหาคำตอบไปพร้อมกันเถอะ
เชียงใหม่ นับว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน โดยในตำนานแรก ๆ ที่ได้กล่าวถึงเชียงใหม่นั้น จะเป็นตำนานว่าด้วยพระธาตุในล้านนา โดยกล่าว ถึงลัวะว่าเป็นชนกลุ่มพื้นเมืองมาก่อน และตำนานมูลศาสนา ชินกาลมาลีปกรณ์ และจามเทวี วงศ์ ได้กล่าวเปรียบเทียบลัวะ ว่าเป็นคนเกิดมาในรอยเท้าสัตว์ ด้วยเหตุที่ว่าลัวะถือเอารูปสัตว์มาเป็นสัญลักษณ์ ส่วนตำนานรุ่นหลังอย่าง ตำนานสุวรรณคำแดงหรือตำนานของเสาอินทขิล เล่าว่าลัวะนั้นเป็นผู้ที่สร้าง เวียงเจ็ดลิน เวียงสวนดอก และเวียงนพบุรีหรือเชียงใหม่ขึ้นมา ด้วยเหตนี้ ลัวะจึงน่าจะเป็นชนกลุ่มแรกเลยที่สร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นมา ภายใต้การสันนิฐาน เกี่ยวเรื่องราวในหน้า ประวัติศาสตร์เชียงใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่นี่ก็คงมีมนุษย์อาศัยอยู่ก่อนแล้ว แต่ยังไม่ได้เป็นเมืองเต็มรูปแบบ
จนล่วงมาถึงประมาณปี พ.ศ. 1839 พญามังราย ที่เป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากปู่เจ้า ลาวจก หรือลวจักราช ที่เป็นกษัตริย์แห่งราชวงศ์ลาวอยู่นั้น ครองเมืองเงินยาง ซึ่งก็ได้แผ่อำนาจเข้ามาครอบคลุมบริเวณลุ่มแม่น้ำกก และได้สร้างเวียงเชียงราย ขึ้นมาเป็นกองบัญชาการในการซ่องสุมไพร่พลไว้เพื่อยึดครองเมืองหริภุญไชย เนื่องจากหริภุญไชยเวลานั้นเป็นเมืองศูนย์กลาง ของความเจริญและเป็นพื้นที่ ชุมทางการค้า พญามังรายได้เข้ายึดครองหริภุญไชยสำเร็จ แล้วได้ประทับอยู่ ที่นั่นเพียง 2 ปี ก็ได้ทรงย้ายไปสร้างเวียงกุมกาม ขึ้นมาใน พ.ศ. 1837 ก่อนจะย้ายมาสร้างเวียงเชียงใหม่ขึ้น ในปี พ.ศ. 1839 โดยได้ร่วมมือกับ พระสหายคือ พญางำเมืองและพ่อขุนรามคำแหงในขณะนั้น ก็ได้ร่วมกันสถาปนา “นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่” ขึ้นมา ซึ่งนับว่าเป็นข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์เชียงใหม่ นั่นเอง
เมืองเชียงใหม่มีชื่อที่ปรากฏในตำนานว่า “นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่” เป็นราชธานีของอาณาจักรล้านนาไทยตั้งแต่พระยามังรายได้ทรงสร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. ๑๘๓๙ จนถึงข้อมูลนับถึงปัจจุบันมีอายุร่วมเจ็ดร้อยปี และเมืองเชียงใหม่ ยังได้มีวิวัฒนาการสืบเนื่องกันมาภายในประวัติศาสตร์เชียงใหม่ ตลอดมา เชียงใหม่ได้มีฐานะเป็นนครหลวงอิสระ ที่ปกครองโดยกษัตริย์ราชวงศ์มังราย ประมาณ ๒๐๐ ปี (ระหว่าง พ.ศ. ๑๘๓๙ – ๒๑๐๑) ในปี พ.ศ. ๒๑๐๑ เชียงใหม่ได้เสียเอกราชให้แก่กษัตริย์พม่าชื่อบุเรงนอง และได้อยู่ภายใต้ การปกครองของพม่านานร่วมสองร้อยปี จวบจนถึงในสมัยพระบาทสมเด็จ พระเจ้าตากสินมหาราชและ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงเข้าช่วยเหลือเมืองล้านนาไทยภายใต้การนำของพระยากาวิละและพระยาจ่าบ้าน ในการทำสงครามเพื่อขับไล่พม่าออกไปจากเมืองเชียงใหม่ และเมือง เชียงแสนได้สำเร็จ ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์เชียงใหม่ เลยก็ว่าได้
ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สถาปนา พระยากาวิละขึ้นเป็นเจ้าเมืองเชียงใหม่ ในฐานะเมืองประเทศราช ของกรุงเทพ และสืบเชื้อสายของพระยากาวิละ ซึ่งเรียกว่าเป็นตระกูลเจ้าเจ็ดตน ที่ได้ปกครอง เมืองเชียงใหม่ เมืองลำพูน และเมืองลำปางสืบต่อมาเรื่อย ๆ ตามประวัติศาสตร์เชียงใหม่
จนกระทั่งในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงโปรด ให้ปฏิรูปการปกครองหัวเมืองประเทศราชได้ยกเลิกการมีเมืองประเทศราช
ในภาคเหนือ ได้จัดตั้งการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล เรียกว่า มณฑลพายัพ และเมื่อในปี พ.ศ. ๒๔๗๖ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงปรับปรุง การปกครองเป็นแบบจังหวัด และเชียงใหม่จึงได้มีฐานะเป็นจังหวัดจนปัจจุบัน
และนี่ก็เป็น ประวัติศาสตร์เชียงใหม่ โดยย่อที่เราได้นำมาสรุปให้ได้อ่านกัน ในครั้งนี้ หวังว่าคุณจะได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นและเข้าใจถึงอดีตและบุคคลต่าง ๆ อันสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของประวัติศาสตร์เชียงใหม่ ที่นับเป็นอีก
หนึ่งจังหวัดสำคัญของประเทศไทยเรามาอย่างช้านาน
อ่านบทความ ประวัติศาสตร์สุโขทัย จุดเริ่มต้นอาณาจักรและลำดับ การปกครอง ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
แหล่งข้อมูล : ประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่,ความเป็นมาของเชียงใหม่