สงครามเย็น ถ้าใครได้ฟังชื่อนี้ครั้งแรก คงไม่พ้นจะคิดว่าเป็นการทำสงครามกันในหน้าหนาว หรือการทำสงครามโดยใช้อาวุธที่ทำจากน้ำแข็งกันใช่ไหม สารภาพมานะ ใครเคยคิดแบบนี้บ้าง
แต่ความจริงแล้วนั้น สงครามเย็น ไม่ได้เย็นอย่างชื่อเลย ออกจะครุกรุ่นเหมือนไฟที่พร้อมลุกโชน ขึ้นในทุกวัน ทุกเวลาเสียด้วยซ้ำ โดยที่สงครามเย็นนี้ เกิดจาก สภาพความขัดแย้งทางอุดมการณ์ ทางการเมืองของระหว่างมหาอำนาจของโลก 2 ชาติ นั่นก็คือสหรัฐอเมริกา กับสหภาพโซเวียต หรือรัสเซีย นั่นเอง ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังจบสงครามโลกครั้งที่ 2 และสิ้นสุดลงภายหลังการล่มสลาย ไปของสหภาพโซเวียต เมื่อปี ค.ศ.1991 รวมระยะเวลา 45 ปี ซึ่งจะเป็นมาอย่างไรนั้น เรามาดูกัน
ขั่วอำนาจฝั่งสหภาพโซเวียต สังคมนิยมคอมมิวนิสต์
เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปในช่วง สงครามโลกครั้งที่ 1 ที่สหภาพโซเวียตนั้นยังคงเป็นจักรวรรดิ รัสเซียที่ได้ปกครองโดยราชวงศ์โรมานอฟ ในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 จักรวรรดิรัสเซียนั้นได้เข้าร่วม สงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งอยู่ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศ ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร เมื่อรวมกับปัจจัยต่าง ๆ ทางการเมือง จึงทำให้ประชาชนในประเทศโดยเฉพาะ กลุ่มชาวนาที่มีความยากจนเริ่มไม่พอใจ และนำไปสู่การปฏิวัติรัสเซีย ขึ้นในปี ค.ศ. 1917
หลังการปฏิวัติครั้งแรกที่มีการตั้งรัฐบาลชั่วคราวขึ้นมาเพื่อปกครอง ก่อนจะเกิดการปฏิวัติอีกครั้งที่สอง โดยพรรคบอลเชวิก ที่อยู่ภายใต้การนำของวลาดิเมียร์ เลนิน (Vladiir Lenin) ผลจากการปฏิวัตินั้น
ได้ทำให้ราชวงศ์โรมานอฟและจักรวรรดิรัสเซียได้ล่มสลายลง กลายเป็นสหภาพโซเวียตที่ถูกปกครอง ด้วยแนวคิดรูปแบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ ที่ล้มเลิกระบบศักดินาและชนชั้น มุ่งเน้นที่ความเท่าเทียม ในสังคม ต่อมาวลาดิเมียร์ เลนินเกิดประสบปัญหาด้านสุขภาพ โจเซฟ สตาลิน (Joseph Stalin) จึงได้ขึ้นมาเป็นผู้นำสหภาพโซเวียตแทนและได้พาประเทศรัสเซียเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ในสมัยของเขาเอง และเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง สหภาพโซเวียตในฐานะที่เป็นประเทศผู้ชนะ สงคราม จึงร่วมกำหนดระเบียบของโลกหลังสงครามโดยร่วมกับสหรัฐอเมริกา และมีบทบาทร่วมกัน ในฐานะของสองมหาอำนาจของโลก ในการเกิด สงครามเย็น ต่อมา
ขั่วอำนาจฝั่งสหรัฐอเมริกา เสรีประชาธิปไตย
และเมื่อสหภาพโซเวียตนั้นได้กลายเป็นคอมมิวนิสต์ ต่อมาในช่วงสมัยของประธานาธิบดีแฮร์รี่ เอส ทรูแมน (Harry S. Truman) ก็ประกาศถึงลัทธิทรูแมน (Truman Doctrine) ขึ้นในปี ค.ศ. 1947 ซึ่งก็คือการให้การสนับสนุนเรื่องต่าง ๆ ให้แก่ประเทศที่มีแนวคิด การปกครองแบบเสรีประชาธิปไตย ในการที่จะต่อสู้กับสหภาพโซเวียต เพื่อเป็นการจำกัดอำนาจของสหภาพโซเวียตเอาไว้ไม่ให้ขยาย แนวคิดแบบคอมมิวนิสต์มีมากขึ้นจนครองโลกเสรีนิยม นอกจากนี้เอง จอร์จ มาร์แชล (George Marshall) ที่ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ในขณะนั้น ยังเสนอแผนการมาร์แชลล์ (Marshall Plan) ซึ่งเป็นแผนว่าด้วยการสนับสนุนทางการเงิน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของทางยุโรป หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แผนการตัวนี้ทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกา มีอำนาจมากในยุโรป และป้องกันไม่ให้หลายประเทศในยุโรปบางส่วนกลายเป็นรัฐคอมมิวนิสต์ และมีส่วนใน สงครามเย็น
จุดเริ่มต้น สงครามเย็น
จุดเริ่มต้นของสงครามเย็น นั้นจะมาในรูปแบบการใช้กลยุทธ์สู้รบกันทางอ้อม คือการใช้ลักษณะความสัมพันธ์ที่มีระหว่างประเทศช่วง ค.ศ. 1945-1991 ที่ให้กลุ่มประเทศโลกเสรีและกลุ่มประเทศคอมมิวนิสต์นั้นต่างพยายามต่อสู้กันโดยวิธีต่าง ๆ ยกเว้นหลีกเลี่ยงการทำสงครามกันโดยเปิดเผยเพื่อที่จะขัดขวางการขยายอำนาจของกันและกัน สงครามเย็น นั้นมีผลสืบเนื่องมาจากสภาพที่บอบช้ำจากการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างโดยตรง
สาเหตุแท้จริงของสงครามเย็นเกิดจากมาการแข่งขันกันของตัวประเทศอภิมหาอำนาจที่ต่างรูปแบบ
การปกครอง ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาในสงครามโลกทั้งสองครั้งนั้น ทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเสียหายน้อยกว่าประเทศคู่สงครามในทวีปยุโรป ทั้งยังเป็นประเทศที่มีก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีสูงกว่าที่อื่น ประกอบกับเป็นประเทศแรกที่มีการคิดค้นและสามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้นั้น มีความรู้สึกว่าตนเป็นตำรวจโลกเพื่อพิทักษ์ไว้ซึ่งวิถีทางของประชาธิปไตยและเสรีภาพ ส่วนสหภาพโซเวียตเองก็ฟื้นตัวจากสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างรวดเร็วเพราะมีพื้นที่ปกครองกว้าง ใหญ่ มีทรัพยากรธรรมชาติอยู่มาก จนสามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้สำเร็จเป็นประเทศต่อมา สหภาพโซเวียตก็ต้องการเป็นผู้นำในการปฏิวัติโลกอีกด้วยเพื่อสถาปนาระบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ตามแนวความคิดของมาร์กซ์ นั่นเอง ดังนั้นทั้งสองประเทศอภิมหาอำนาจจึงใช้ความช่วยเหลือ แก่ประเทศต่าง ๆ และใช้เป็นเครื่องมือในการขยายอิทธิพล อำนาจและอุดมการณ์ของตนต่อไป เพื่อหาประเทศที่อุดมการณ์คล้ายคลึงกันเอามาเป็นเครื่องถ่วงดุลในอำนาจกับฝ่ายตรงกันข้าม
และนี่ก็เป็นข้อมูลของสงครามเย็น ที่ได้มีการเกิดขึ้นมา หลังจากจบสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่บอกเลยว่า แม้ดูเหมือนจะสงบเหมือนผืนน้ำเรียบ ๆ แต่ใต้ผิวน้ำนั้นมีความปั่นป่วนยุ่งเหยิงเป็นเกลียวคลื่นที่ไม่ควร
ลงไปเล่นอย่างยิ่งเลยทีเดียว
แหล่งที่มา : ColdWar8.pdf, สงครามเย็น-coldwar-สังคมศึกษา
อ่านต่อที่ เหตุการณ์สำคัญ
Credit : แฟชั่นผู้ชาย, ของสะสม, แคปชั่น, วิ่ง, สมุนไพร